วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
พรบ.คอมพิวเตอร์
“พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ ระบบคอมพิวเตอร์ หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
ผู้ให้บริการ หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
ผู้ใช้บริการ หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
สามารถ download ข้อมูลได้ที่นี่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ ระบบคอมพิวเตอร์ หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
ผู้ให้บริการ หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
ผู้ใช้บริการ หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
รัฐมนตรี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
สามารถ download ข้อมูลได้ที่นี่
วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552
แนะนำตัวเอง
(ชื่อ-สกุล ภาษาไทย) : นางสาว สุพัตรา พิมพ์พันธ์
(ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษ) : Supattra Phimpha
เพศ : หญิง อายุ : 20 ปี
สถานะภาพ : โสด
วันเกิด : 22 เมษายน 2532
22 April 1989
ที่อยู่ : 126 หมู่15 ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย 43120
e-mail : supattra2218@gmail.com, loves_star_t@hotmail.com
สถาบันการศึกษา :
ระดับประถม : โรงเรียนชุมชนบ้านชุมช้าง
ระดับมัธยมศึกษา : ตอนต้น โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 3.26
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 2.62
ระดับปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังไม่สำเร็จการศึกษา
ความสามารถพิเศษ :
- เล่นวอลเลย์บอล
- รำไทย
งานอดิเรก :
- อ่านหนังสือ
- ถ่ายภาพ
- เล่นคอม
เวลาว่าง :
- นอน
- ดูทีวี
- ฟังเพลง
ความใฝ่ฝัน : ทำงานอิสระ
Resume
Resume
(ชื่อ-สกุล ภาษาไทย) : นางสาว สุพัตรา พิมพ์พันธ์
(ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษ) : Supattra Phimpha
เพศ : หญิง อายุ : 20 ปี
สถานะภาพ : โสด
วันเกิด : 22 เมษายน 2532
22 April 1989
ที่อยู่ : 126 หมู่15 ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย 43120
e-mail : supattra2218@gmail.com, loves_star_t@hotmail.com
สถาบันการศึกษา :
ระดับประถม : โรงเรียนชุมชนบ้านชุมช้าง
ระดับมัธยมศึกษา : ตอนต้น โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 3.26
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 2.62
ระดับปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังไม่สำเร็จการศึกษา
ความสามารถพิเศษ :
- เล่นวอลเลย์บอล
- รำไทย
งานอดิเรก :
- อ่านหนังสือ
- ถ่ายภาพ
- เล่นคอม
เวลาว่าง :
- นอน
- ดูทีวี
- ฟังเพลง
ความใฝ่ฝัน : ทำงานอิสระ
สามารถ download Resume ได้ที่นี่
(ชื่อ-สกุล ภาษาไทย) : นางสาว สุพัตรา พิมพ์พันธ์
(ชื่อ-สกุล ภาษาอังกฤษ) : Supattra Phimpha
เพศ : หญิง อายุ : 20 ปี
สถานะภาพ : โสด
วันเกิด : 22 เมษายน 2532
22 April 1989
ที่อยู่ : 126 หมู่15 ตำบลชุมช้าง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย 43120
e-mail : supattra2218@gmail.com, loves_star_t@hotmail.com
สถาบันการศึกษา :
ระดับประถม : โรงเรียนชุมชนบ้านชุมช้าง
ระดับมัธยมศึกษา : ตอนต้น โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 3.26
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย เกรดเฉลี่ย : 2.62
ระดับปริญญาตรี : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังไม่สำเร็จการศึกษา
ความสามารถพิเศษ :
- เล่นวอลเลย์บอล
- รำไทย
งานอดิเรก :
- อ่านหนังสือ
- ถ่ายภาพ
- เล่นคอม
เวลาว่าง :
- นอน
- ดูทีวี
- ฟังเพลง
ความใฝ่ฝัน : ทำงานอิสระ
สามารถ download Resume ได้ที่นี่
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ข้อมูลคณะการบัญชีและการจัดการ
ประวัติคณะการบัญชีและการจัดการ
คณะการบัญชีและการจัดการ เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้ ระเบียบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่าด้วยคณะการบัญชีและการจัดการ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2541 มีลักษณะของการดำเนินงานและรูปแบบของการบริหารงานแบบนอกระบบราชการเน้นความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และพึ่งตนเองมากที่สุดในการจัดการศึกษา โดยมีสภามหาวิทยาลัยมหาสารคามทำหน้าที่กำกับดูแลและควบคุม
คณะการบัญชีและการจัดการเริ่มต้นจากภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ใน ปีการศึกษา 2538 ได้เปิดสอนหลักสูตรบริหารธุรกิจ (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาการตลาดขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จากเดิมที่เปิดสอนเฉพาะวิชาโทบริหารธุรกิจ) โดยจัดสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยเป็นโครงการพิเศษ ในปีการศึกษา 2540 ได้เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการจัดการ และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการบัญชีและสาขาวิชาการตลาดด้วย
สามารถ download ข้อมูลคณะการบัญชีและการจัดการ ได้ทีนี่
คณะการบัญชีและการจัดการ เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้ ระเบียบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่าด้วยคณะการบัญชีและการจัดการ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2541 มีลักษณะของการดำเนินงานและรูปแบบของการบริหารงานแบบนอกระบบราชการเน้นความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และพึ่งตนเองมากที่สุดในการจัดการศึกษา โดยมีสภามหาวิทยาลัยมหาสารคามทำหน้าที่กำกับดูแลและควบคุม
คณะการบัญชีและการจัดการเริ่มต้นจากภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ใน ปีการศึกษา 2538 ได้เปิดสอนหลักสูตรบริหารธุรกิจ (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการบัญชี และสาขาวิชาการตลาดขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จากเดิมที่เปิดสอนเฉพาะวิชาโทบริหารธุรกิจ) โดยจัดสอนในวันเสาร์-อาทิตย์ โดยเป็นโครงการพิเศษ ในปีการศึกษา 2540 ได้เปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการจัดการ และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาการบัญชีและสาขาวิชาการตลาดด้วย
สามารถ download ข้อมูลคณะการบัญชีและการจัดการ ได้ทีนี่
วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วิธีป้องกัน “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009"
1. หากไม่มีความจำเป็น ควรชะลอการเดินทางไปยังพื้นที่ที่กำลังเกิดการระบาดจนกว่าสถานการณ์จะยุติลง
2. หากจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เกิดการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ และที่แออัด หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หรือเช็ดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ พร้อมปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการในพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด 3. ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เกิดการระบาด ถ้ามีอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ฯลฯ ภายใน 7 วันหลังเดินทางกลับ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชูปิดปากจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างเข็มงวด
4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดย
4.1 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดและนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุรา
4.2 หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการไอ จาม
4.3 หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้าน หรือสถานที่ทำงานเดียวกัน ต้องรีบแจ้งสำนักงานสาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้า ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันที
2. หากจำเป็นต้องเดินทางไปพื้นที่เกิดการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการไอ และที่แออัด หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หรือเช็ดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ พร้อมปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการในพื้นที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด 3. ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เกิดการระบาด ถ้ามีอาการของไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ฯลฯ ภายใน 7 วันหลังเดินทางกลับ ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้กระดาษทิชชูปิดปากจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำในการปฏิบัติตัวอย่างเข็มงวด
4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดย
4.1 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดและนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มสุรา
4.2 หมั่นล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการไอ จาม
4.3 หากพบว่ามีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ภายในบ้าน หรือสถานที่ทำงานเดียวกัน ต้องรีบแจ้งสำนักงานสาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเข้า ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดทันที
อ็อกปลา

อ็อกปลา เป็นอาหารที่ปรุงด้วยวิธีอ็อก โดยนำอาหารนำใส่หม้อหรือกระทะ หรือห่อใบตอง เติมน้ำลงไปเล็กน้อย หรือนำเอาหารพร้อมเครื่องปรุงใส่ในหม้อ เติมน้ำเล็กน้อยยกตั้งไฟ นิยมทำกับอาหารที่สุกเร็ว เช่น ไข่ ปลา มะเขือยาว เรียกชื่ออาหารตามชนิดของส่วนผสม เช่น อ็อกปลา อ็อกไข่ (ไข่ป่าม หรือป่ามไข่) อ็อกบ่าเขือ (อ็อกมะเขือ) (รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 7832-7833; สิรวิชญ์ จำรัส, 2550, สัมภาษณ์) สำหรับอ็อกปลา นิยมใช้ปลาตัวเล็ก เพราะสุกง่าย หรือใช้ปลาตัวใหญ่แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปผัดกับเครื่องแกง เติมน้ำเล็กน้อย ใส่มะเขือเปราะ ใบมะกรูด ใบโหระพา และใบขมิ้น เพื่อดับกลิ่นคาวปลา (สิรวิชญ์ จำรัส, 2550, สัมภาษณ์)
1. ปลาช่อน 300 กรัม
2. มะเขือเปราะซอย 1 ถ้วย
3. ใบมะกรูด 5 ใบ
4. โหระพา 5 ยอด
5. ใบขมิ้นซอย 2 ใบ
6. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
1. พริกขี้หนู 20 เม็ด
2. กระเทียม 10 กลีบ
3. หอมแดง 5 หัว
4. ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
5. ขมิ้นหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
6. ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
7. ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนชา
8. รากผักชี 7 ราก
9. กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
10. ปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
11. เกลือ 1 ช้อนชา
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. เจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม เติมน้ำประมาณ 1 ถ้วย
3. พอน้ำแกงเดือด ใส่ปลาช่อน
4. ต้มให้ปลาสุกทั่ว ใส่มะเขือเปราะ ผัดต่อจนมะเขือเปราะสุก ใส่ใบมะกรูด
5. ใส่ใบโหระพา และใบขมิ้น คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
เคล็ดลับในการปรุง
ล้างปลาช่อนด้วยน้ำเกลือ จะทำให้ลดกลิ่นคาวปลา
เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสม
ต้องเลือกปลาเป็น จะทำให้รสชาติของอ็อกปลาอร่อยยิ่งขึ้น
ที่มา : http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=40
แกงผักพ่อค้าตีเมีย

ผักพ่อค้าตีเมีย บ้างเรียกว่า ผักกับแก้ ภาคกลางเรียกผักเฟือยนก เป็นผักสุกยาก มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงขนุน แกงบ่าค้อนก้อม
(แกงมะรุม) แต่แกงผักพ่อค้าตีเมีย นิยมใส่เห็ดหูหนู หรืออาจใส่เห็ดนางฟ้าด้วย แล้วแต่ชอบ (ประทุม อุ่นศรี, สัมภาษณ์, 25 มิถุนายน 2550)
1. ผักพ่อค้าตีเมีย 200 กรัม
2. ปลาแห้ง 100 กรัม
3. เห็ดนางฟ้า 100 กรัม
4. เห็ดหูหนู 100 กรัม
5. ชะอม 100 กรัม
6. มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก
1. พริกแห้ง 5 เม็ด
2. กระเทียม 5 เม็ด
3. หอมแดง 5 หัว
4. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงลงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม
4. ใส่เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู ต้มให้เห็ดสุก
5. ใส่ผักพ่อค้าตีเมีย ต้มจนผักสุก
6. ใส่มะเขือเทศ คนให้เข้ากัน
7. ใส่ชะอม พอผักสุก ปิดไฟ
ผักพ่อค้าตีเมีย เป็นผักสุกยาก ให้ชิมดูก่อน ถ้าน้ำแกงไม่มีรสเฝื่อน แสดงว่าผักสุกแล้ว ถ้าแกงนานเกินไป จะเสียรสชาติของน้ำแกง
ที่มา : http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=205
แกงผักพ่อค้าตีเมีย
ผักพ่อค้าตีเมีย บ้างเรียกว่า ผักกับแก้ ภาคกลางเรียกผักเฟือยนก เป็นผักสุกยาก มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงขนุน แกงบ่าค้อนก้อม (แกงมะรุม) แต่แกงผักพ่อค้าตีเมีย นิยมใส่เห็ดหูหนู หรืออาจใส่เห็ดนางฟ้าด้วย แล้วแต่ชอบ (ประทุม อุ่นศรี, สัมภาษณ์, 25 มิถุนายน 2550)
1. ผักพ่อค้าตีเมีย 200 กรัม
2. ปลาแห้ง 100 กรัม
3. เห็ดนางฟ้า 100 กรัม
4. เห็ดหูหนู 100 กรัม
5. ชะอม 100 กรัม
6. มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก
1. พริกแห้ง 5 เม็ด
2. กระเทียม 5 เม็ด
3. หอมแดง 5 หัว
4. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงลงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม
4. ใส่เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู ต้มให้เห็ดสุก
5. ใส่ผักพ่อค้าตีเมีย ต้มจนผักสุก
6. ใส่มะเขือเทศ คนให้เข้ากัน
7. ใส่ชะอม พอผักสุก ปิดไฟ
ผักพ่อค้าตีเมีย เป็นผักสุกยาก ให้ชิมดูก่อน ถ้าน้ำแกงไม่มีรสเฝื่อน แสดงว่าผักสุกแล้ว ถ้าแกงนานเกินไป จะเสียรสชาติของน้ำแกง
ที่มา : http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=205
1. ผักพ่อค้าตีเมีย 200 กรัม
2. ปลาแห้ง 100 กรัม
3. เห็ดนางฟ้า 100 กรัม
4. เห็ดหูหนู 100 กรัม
5. ชะอม 100 กรัม
6. มะเขือเทศลูกเล็ก 5 ลูก
1. พริกแห้ง 5 เม็ด
2. กระเทียม 5 เม็ด
3. หอมแดง 5 หัว
4. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 1 ช้อนชา
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงลงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม
4. ใส่เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู ต้มให้เห็ดสุก
5. ใส่ผักพ่อค้าตีเมีย ต้มจนผักสุก
6. ใส่มะเขือเทศ คนให้เข้ากัน
7. ใส่ชะอม พอผักสุก ปิดไฟ
ผักพ่อค้าตีเมีย เป็นผักสุกยาก ให้ชิมดูก่อน ถ้าน้ำแกงไม่มีรสเฝื่อน แสดงว่าผักสุกแล้ว ถ้าแกงนานเกินไป จะเสียรสชาติของน้ำแกง
ที่มา : http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=205
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
